คุณเคยคิดอยากทำงานอิสระ สร้างรายได้จากที่ไหนก็ได้ในโลกนี้หรือเปล่า? การเป็นฟรีแลนซ์นักทำเว็บไซต์ WordPress อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา! การเริ่มต้นเป็นฟรีแลนซ์นักทำเว็บไซต์ WordPress ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป ในบทความนี้ เราจะพาคุณผ่านขั้นตอนทั้งหมด ตั้งแต่ข้อดีของฟรีแลนซ์ WordPress , การสร้างพอร์ตโฟลิโอ , การหาลูกค้า ไปจนถึงเทคนิคและเคล็ดลับในการทำเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ
ทำไมควรเลือก WordPress สำหรับการเป็นฟรีแลนซ์
หลายๆ คนอาจจะยังลังเลอยู่ว่าฟรีแลนซ์ทำเว็บไซต์มีตั้งหลายแพลตฟอร์ม แล้วมีเหตุผลอะไรบ้างที่เราควรจะเลือกใช้ WordPress ในการทำเว็บไซต์? มาอ่านกันต่อเลย
ข้อดีของ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์
ใช้งานง่าย ทุกเพศ ทุกวัย
- WordPress เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์การเขียนโค้ด คุณก็สามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย
- ด้วยอินเทอร์เฟซที่ทันสมัยใช้เมาส์ก็เอาอยู่และระบบลากวาง ทำให้การสร้างหน้าเว็บและเพิ่มเนื้อหาทำได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเองให้ปวดหัว
- WordPress ยังมีธีมและเทมเพลตสำเร็จรูปสวยๆ เท่ๆ มากมายให้เลือกใช้ ทำให้สร้างเว็บไซต์ที่ดูดีและมืออาชีพได้ภายในไม่กี่คลิก
- หากเคยได้ยินหรือเห็นคำว่า CMS (Content Management System) คือระบบที่ช่วยให้คุณสร้างและจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิคหรือการเขียนโค้ดมากมาย เช่น WordPress นั่นเอง
ปรับแต่งตามใจ สไตล์ไหนก็โดน
- การมีปลั๊กอินเสริมเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการทำงานให้กับเว็บไซต์ ทำให้ WordPress มีลูกเล่นหลากหลายวิธีที่พร้อมนำเสนอ
- ปลั๊กอิน SEO สำหรับการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับใน Search Engine
- ปลั๊กอินติดต่อสำหรับสร้างแบบฟอร์มติดต่อ
- ปลั๊กอินแชทสำหรับการสนทนาสดกับผู้เยี่ยมชม
- WordPress ยังมีธีมให้เลือกทั้งแบบฟรีและแบบจ่ายเงิน แต่ละธีมก็มีความโดดเด่นสวยงามตอบสนองความต้องการทุกประเภท
- ธีมเว็บไซต์แบบ Blog บทความ
- ธีมแบบ E-commerce
- ธีมแบบ ข้อมูลบริษัท
ง่ายต่อการหาข้อมูลและความช่วยเหลือ
- ด้วยความที่ WordPress เป็น CMS (Content Management System) ที่ได้รับความนิยมสูง ดังนั้นคนที่ใช้ WordPress จึงคุยกับใครก็รู้เรื่อง ขอคำปรึกษา ความช่วยเหลือก็ย่อมง่าย
- ในโลกออนไลน์มีคอนเทนต์เกี่ยวกับการสอน การแนะนำ ไอเดียเจ๋งๆ ของ WordPress ทั้งบทความ รูปภาพ วิดีโอ ไม่ต้องกังวลที่จะข้อมูลของ WordPress ไม่เจอ
เหมาะสำหรับงบน้อย เริ่มต้นง่าย
- WordPress เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี หลายๆ ธุรกิจสามารถสร้างเว็บไซต์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเบื้องต้น
- บริการฟรีของ WordPress ก็มีรองรับทั้งธีมและปลั๊กอิน ช่วยให้ปรับแต่งและเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ ให้กับเว็บไซต์ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของเรา
- มีบริการเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ราคาประหยัดที่รองรับการใช้งาน WordPress อยู่มากมาย คุณสามารถหาได้ง่ายๆ เพื่อให้เว็บไซต์ไม่ดับและสามารถเข้าใช้งานได้ตลอด 24 ชม.
รองรับ SEO เติบโตในออนไลน์
- WordPress มีเครื่องมือ SEO ในตัว ช่วยให้เว็บไซต์ได้เปรียบในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาหรือ Search Engine
- มีปลั๊กอิน SEO ให้เลือกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- Yoast SEO มีฟีเจอร์เด่นๆ ที่จะช่วยเรื่อง SEO
- Internal link ช่วยให้มีโครงสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ
- วิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้ Keyword
- ตรวจสอบและปรับแต่งเนื้อหาหน้าเว็บเพจให้ตรงตามหลัก SEO
- จัดการ Error 404 ไม่มีปัญหารบกวน
- แผนผังเว็บไซต์ (XML Sitemaps) ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณ
- All in One SEO Pack กับฟีเจอร์ SEO โดนๆ
- รองรับ Google AMP, XML Sitemap, Google Analytics
- เชื่อมต่อเว็บไซต์กับอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopify
- ปรับแต่งชื่อบล็อก, meta tags อัตโนมัติ
ความปลอดภัยเข้มข้น
- WordPress มีระบบความปลอดภัยในตัวเองค่อนข้างครอบคลุม มีการแจ้งเตือนผู้ใช้งานให้อัพเดทความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
- มีปลั๊กอินความปลอดภัยเพิ่มเติมมากมายให้เลือก
- Wordfence : สแกนเนอร์มัลแวร์ที่มีประสิทธิภาพและทำงานแบบอัตโนมัติ Wordfence ยังมีไฟร์วอลล์ในตัวแต่จะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าไฟร์วอลล์ระดับ DNS
- Sucuri : ไฟร์วอลล์ระดับสูง ช่วยป้องกันการโจมตีและกรองการเข้าชม ไฟร์วอลล์ยังมี CDN ที่เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ หากเว็บไซต์โดนมัลแวร์ Sucuri จะทำความสะอาดให้ฟรี
- All In One WP Security & Firewall : มีคุณสมบัติเช่น ป้องกันการโจมตีจากผู้ใช้ที่น่าสงสีย กรอง IP ตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์ และสแกนหาฐานข้อมูลที่น่าสงสัย
รองรับทุก Device
- WordPress รองรับการออกแบบเว็บไซต์แบบตอบสนอง (Responsive) พูดง่ายๆ ก็คือสามารถปรับขนาดการแสดงผลตามขนาดอุปกรณ์ที่เราใช้งาน
- เว็บไซต์ของ WordPress จะแสดงผลได้อย่างสวยงามบนทุกอุปกรณ์ เช่น
- คอมพิวเตอร์
- แท็บเล็ต
- สมาร์ทโฟน
ข้อดีทั้งหมดคือเหตุผลว่าทำไม WordPress ยังเป็นที่ต้องการสำหรับการสร้างเว็บไซต์ และตลาดต้องการทักษะนี้จำนวนมาก
ตัวอย่างข้อดีของ WordPress
เป็นฟรีแลนซ์นักทำเว็บไซต์ WordPress เริ่มยังไง? มีเทคนิคอะไร?
การจะเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ WordPress ฟรีแลนซ์ จะเริ่มต้นยังไงดี? วิธีเริ่มก็คือเปิดคอมพิวเตอร์ แล็บท็อป ของคุณตอนนี้ซะ! แล้วเริ่มจากการเรียนรู้เบื้องต้นในการสร้างเว็บไซต์ WordPress ก่อนเลย เพราะวิธีนี้มันง่ายที่สุดแล้วในการเริ่มต้น และต่อไปนี้จะเป็นเทคนิคและแนวทางหลักที่นักออกแบบเว็บไซต์ควรจะต้องมีในช่วงการเริ่มต้นเป็นฟรีแลนซ์
วางแผนก่อนเริ่ม
- แน่นอนว่าก่อนจะเริ่มลงมือออกแบบเว็บไซต์ใด เว็บไซต์หนึ่งนักออกแบบต้องรู้ก่อนว่า เว็บไซต์นั้นมีเป้าหมายคืออะไร เช่น
- เว็บไซต์สำหรับขายสินค้า
- เว็บไซต์สำหรับข่าวและบทความ
- เว็บไซต์สำหรับความบันเทิง
- เมื่อเรารู้ถึงจุดประสงค์ของเว็บไซต์ เราก็จะรู้กลุ่มเป้าหมายของคนที่จะเข้าชมเว็บไซต์โดยปริมาณ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการออกแบบต่อไป
- วางโครงสร้างเนื้อหาที่เราจะนำเสนอต่อผู้ชมบนเว็บไซต์ ว่าเนื้อหาใดควรจะอยู่ก่อนหรือหลังหรือเนื้อหาใดควรเน้นขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก
- ออกแบบหน้าเว็บไซต์คร่าวๆ วาดโครงร่างว่าจะให้มีหน้าแรกเป็นอย่างไร เพราะเป็นเหมือนประตูด่านแรกที่คนเข้าเว็บของเรามาจะต้องเจอก่อน
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการปรับแต่งเว็บ
ธีม
- WordPress คือพื้นที่เปิดกว้างสำหรับนักออกแบบหน้าเว็บไซต์ เพราะตัวแพลตฟอร์มเองรองรับธีมมากกว่า 100 + ธีม ให้เลือกใช้
- การเลือกธีมนั้นก็ต้องสอดคล้องกับข้อแรกก็คือจุดประสงค์ของเว็บไซต์
- เว็บไซต์ข่าวกีฬาก็ควรใช้ธีม ดุดัน แข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงธีมประเภท สดใส อ่อนโยน
- เว็บไซต์ขายสินค้าก็ควรเลือกธีมที่ดูหรูหรา น่าเชื่อถือ ทันสมัยเป็นต้น
- ธีมเว็บไซต์เปรียบเทียบก็เหมือนเสื้อผ้าที่เราใส่ หากเราต้องการพบลูกค้าก็ต้องแต่งตัวดีๆ สะอาด น่าเชื่อถือ หรือหากเราต้องการไปเที่ยวผจญภัย ก็แต่งตัวสบายๆ ลุยๆ หวังว่าทุกท่านคงเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น
- และอย่าลืมเลือกธีมที่สอดคล้องกับระบบความปลอดภัย มีให้อัปเดตด้านความปลอดภัยอยู่เสมอ
ปลั๊กอิน
- ปลั๊กอินคือส่วนเสริมในออกแบบเพื่อช่วยเพิ่มฟังก์ชันการทำงานให้กับเว็บไซต์ ให้เว็บไซต์ดูมีอะไรมากขึ้น มีการตอบสนองกับผู้ชมได้มากขึ้น
- ประเภทของปลั๊กอินมีอะไรบ้าง?
- ปลั๊กอินสำหรับสร้างหน้าเว็บ
- ปลั๊กอินสำหรับ SEO ติดอันดับการค้นหา
- ปลั๊กอินสำหรับใช้ในการติดต่อกับเจ้าของเว็บหรือธุรกิจ
- ปลั๊กอินสำหรับเว็บ E-Commerce
- ปลั๊กอินสำหรับความปลอดภัย
- ปลัก๊กอินบริการด้านความสะดวกสบายอื่นๆ
- ควรติดตั้งปลั๊กอินที่เท่าที่จำเป็นและน่าเชื่อถือ เพราะถ้าหากเว็บคืออุปกรณ์ไอทีชนิดหนึ่ง ปลั๊กอินก็เหมือนแอพลิเคชั่นที่เราเลือกติดตั้งเพื่อให้อุปกรณ์นั้นปรับใช้งานได้หลายแนว
- ในการเริ่มต้นออกแบบเว็บไซต์นั้นการเลือกใช้ปลั๊กอินก็มีส่วนสำคัญ เพราะถ้าเราใช้ปลั๊กอินเยอะเกินไปก็มีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย
ขังผู้เข้าชมเว็บด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ
- นักออกแบบเว็บไซต์มือใหม่ควรรู้ไว้เลยว่า ต่อให้ธีมของเว็บสวยแค่ไหน มีฟังก์ชั่นการใช้งานเจ๋งๆ เต็มไปหมด แต่ไม่มีเนื้อหาอะไรดึงดูด ก็ไม่อาจรั้งผู้ชมไว้ได้นาน
- ดังนั้น ! สิ่งสำคัญคือการสร้างเนื้อหาในเว็บให้น่าสนใจ ทำยังไงก็ได้เพื่อขังผู้ชมให้อยู่ในเว็บไซต์ของเรานานๆ
- การสร้างเนื้อหาในเว็บ ก็มีหลักการรวมๆ ก็คือ
- ดึงดูดความสนใจให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย
- เนื้อหาในเว็บต้องใช้รูปภาพ วิดีโอ บทความที่คุณภาพสูง
- อัพเดทตามกระแสให้ทัน
- สิ่งเหล่านี้คือหลักเบื้องต้นที่จะทำให้เนื้อหาในหน้าเว็บของเราดึงผู้ชมไว้ได้นาน แต่ถ้าจะเจาะลึกอีก เราสามารถคุยเรื่องนี้ได้ยาวๆ
รู้จัก UX/UI
- UI (User Interface) คือการออกแบบที่เราต้องคำนึงถึงการใช้งานที่มันง่าย ไม่ซับซ้อน ลดระยะเวลาการใช้งาน
- UX (User Experience) คือ ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ความรู้สึกหลังจากที่ได้ใช้งานไปแล้ว เป็นอย่างไร?
- การเริ่มต้นในการออกแบบเว็บไซต์จึงต้องคำนึงถึง UX/UI ตามคำนิยามที่ได้กล่าวเพราะคนที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของเรา ควรจจะใช้บริการเว็บไซต์ได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไป
- ดังนั้นเว็บไซต์ที่คำนึงถึง UX/UI ก็คือ
- มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวก ง่ายดาย
- มีสีสันที่เข้ากับเนื้อหาและจุดประสงค์ของเว็บ
- มีอินเทอร์เฟซที่ตอบสนองต่อความพอใจของผู้เข้าชม
- มีโครงสร้างเว็บไซต์ การจัดแบ่งเนื้อหาที่ดี มีประโยชน์
- อาจจะรวมไปถึงความเร็วในการตอบสนองต่อคำสั่งผู้ใช้งานด้วย เพราะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งของประสบการณืที่ผู้ใช้งานได้รับ
- และอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของเราสามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ เพื่อตอบสนองการใช้งานทุกประเภท
ใช้ SEO ให้สุด
- เมื่อ WordPress มีปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องกับ SEO ให้ ตามที่ได้บอกไว้ในตอนต้น ดังนั้นก็ใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปรับแต่งให้หน้าเว็บของเราติดอันดับต้นๆ สำหรับการค้นหาให้ได้
- อาจจะมีการใช้คีย์เวิร์ด(Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์หรือชื่อเว็บไซต์เพื่อให้กระตุ้นเกิดการค้นหาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- เว็บไซต์ขายสินค้า อาจจะมีคีย์เวิร์ดในเว็บไซต์อย่าง ลดราคา, Sale, สุดคุ้ม เป็นต้น
- ต้องสร้าง Traffic ให้เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกเว็บไซต์ พูดง่ายๆ ก็คือ สร้างลิงก์เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ไปยังเพจต่างๆ ของเว็บเรา เรียกว่า Internal Links
- ทำภายในแล้วก็อย่าลืมที่จะมี Hyperlinks ออกไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจากเว็บของเรารวมถึงไปแปะลิงก์บนเว็บไซต์พันธมิตรอื่นๆ ให้เข้ายังเว็บไซต์ของเราเรียกว่า External Links
เทคนิคเบื้องต้นในการออกแบบเว็บไซต์
ได้เทคนิคแล้ว ถึงเวลาสร้างรายได้!
เอาล่ะ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็แสดงว่าหลายคนคงจะมีไอเดียและฝีมือในการออกแบบเว็บไซต์กันมาบ้างแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่ต้องเริ่มสร้างรายได้ เพื่อให้วิชาความรู้ที่เรียนมาได้ออกดอกออกผลสักที การสร้างรายได้จากการเป็นฟรีแลนซ์นักออกแบบเว็บไซต์นั้น ก็มีคอนเซปต์คล้ายๆ กับฟรีแลนซ์สายอื่นๆ ก็คือ หากฝีมือคุณเจ๋งจริง ค่าตอบแทนก็สูงตามไปด้วย
สร้างพอร์ตให้เจ๋ง!
- ก่อนจะเสนอตัวเองทำงานหรือรับจ้างจากนายจ้าง เราเองก็ต้องมีการสะสมผลงานที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณาถึงระดับความสามารถของเรา
- หากได้มีโอกาสได้ออกแบบเว็บไซต์จาก WordPress อย่าลืมที่จะเก็บผลงานไว้ พร้อมอธิบายเกี่ยวกับผลงานสักนิดก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าเข้าใจมากขึ้น
- ออกแบบเว็บไซต์หลายๆ ประเภท หลายๆ แนวทาง เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าลูกค้าที่จะจ้างเรานั้นเขาต้องการเว็บไซต์แบบไหนมาก่อน ดังนั้นมีตัวเลือกให้ลูกค้ากว้างๆ เข้าไว้ ได้งานแน่นอน
ลองทำโปรเจคจริงฝึกสกิล
- อย่างที่บอกไปว่างานฟรีแลนซ์ รายได้แปรผันตามฝีมือ ก็อย่าลืมที่จะพัฒนาฝีมือการออกแบบเว็บไซต์ให้บ่อยๆ ลงสนามจริงให้บ่อยคุ้นเคยกับการพูดคุยงาน เจรจาค่าตอบแทน
- อาจจะรับงานง่ายๆ แก้ขัดไปก่อนหากช่วงเริ่มต้นยังไม่มีใครรู้ถึงสกิลของเรา เช่น
- รับงานแก้ไขฟ้อนต์ของเว็บเบื้องต้น แต่ก็โชว์สกิลให้เขารู้ว่าเราทำได้มากกว่านั้น
- งานปรับแต่งธีม ปรับแต่งปลั๊กอิน เขียนเนื้อหาในเว็บ
- เข้าร่วมโครงการ Open Source ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยในการพัฒนาทักษะออกแบบเว็บไซต์
- Open Source คือวิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เปิดเผยโค้ดให้สาธารณะ ใช้งานได้ฟรีและนักพัฒนาคนอื่น ๆ สามารถศึกษา แก้ไข และพัฒนาโค้ดให้ดีขึ้น เปรียบเสมือนการระดมสมองช่วยกันคิดหาโค้ดที่สมบูรณ์แบบที่สุด
แหล่งหางานฟรีแลนซ์ออกแบบเว็บไซต์
- นักออกแบบเว็บไซต์สามารถเริ่มต้นหางานจากแหล่งเว็บไซต์รับงานฟรีแลนซ์ชื่อดัง เช่น
- Upwork: แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับฟรีแลนซ์ทุกสายงาน มีงานออกแบบเว็บไซต์มากมายให้เลือก
- FreelanceBay: อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ใหญ่และมีงานหลากหลาย สามารถประมูลงานที่คุณสนใจได้
- Fastwork : แหล่งหางานฟรีแลนซืทุกประเภทของเมืองไทย รวมไปถึงนักออกแบบเว็บไซต์ WordPress
- Fiverr: เน้นงานแบบจ้างเป็นโปรเจกต์ มีการตั้งราคางานที่ชัดเจนและงานออกแบบเว็บไซต์มากมาย
- แหล่งหางานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งก็คือในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่สามารถตั้งโพสต์ในการรับงาน หางานได้ เช่น
- Facebook Group : กลุ่มเฟสบุคคือแหล่งรวมตัวของคนที่มีความต้องการคล้ายกันหรือสัมพันธ์กัน นายจ้างและฟรีแลนซ์สามารถโพสต์ความต้องการ(จ้างงาน , รับงาน)ได้ทุกเวลา
- LinkedIn : แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ฟรีแลนซ์หลายประเภทได้ประชาสัมพันธ์ เสนอตัวเองให้น่าสนใจ พร้อมกับมีโอกาศจากบริษัทจ้างงานมากมายเต็มไปหมดที่รอคุณอยู่
- การเสนอตัวรับงานไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด อีกทั้งยังเป็นการแสดงความมั่นใจต่อลูกค้าว่าเรามีความพร้อมในการแก้ปัญหาใก้กับลูกค้าได้ แต่ทั้งนี้ต้องเจรจาเรื่องราคาค่าจ้าง ความยากง่ายของงานให้สอดคล้องและชัดเจน
Keep Contact ลูกค้า
- ในเมื่อเราโชว์ฝีมือ โชว์สกิลให้เป็นที่ประจักษ์ไปแล้ว อย่าลืมเด็ดขาดที่ Keep Contact กับลูกค้าเอาไว้
- หมั่นให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์เพื่อลูกค้าเห็นว่าเรามีความสามารถและเป็นกันเอง เพราะงานฟรีแลนซ์หากได้ลูกค้าประจำคนหนึ่ง ก็เหมือนได้งานยาวๆ
- ปรับแต่งตามที่ลูกค้าต้องการ บางครั้งอาจจะขัดกับไอเดียหรือแนวคิดของเรา ก็ต้องหาจุดกึ่งกลางให้ได้
5 ธีมแนะนำ ของ WordPress ที่น่าสนใจ
ก่อนจะจากกันไป ทางทีมงานก็มีไอเดียในการต่อยอด ซึ่งในส่วนนี้คือ 5 ธีมเว็บไซต์ของ WordPress ที่มองว่าตอบโจทย์เว็บไซต์ทุกประเภท จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
Astra
- Astra เป็นธีม WordPress ที่รวดเร็วและปรับแต่งได้เต็มที่ เหมาะสำหรับบล็อก, พอร์ตโฟลิโอส่วนตัว, เว็บไซต์ธุรกิจ, และร้านค้าออนไลน์
- ธีมนี้มีขนาดเบามาก (น้อยกว่า 50KB ต่อหน้า) และเด่นเรื่องความเร็วในการตอบสนองต่อคำสั่ง
- และ Astra ก็ยังออกแบบมาโดยคำนึงถึง SEO มีรหัส Schema.org และรองรับ AMP ทำให้เครื่องมือค้นหาชื่นชอบเว็บไซต์อย่างมาก
- ยังทำงานได้อย่างราบรื่นกับ Page Builder ยอดนิยม เช่น
- Elementor
- Beaver Builder
- Visual Composer
- SiteOrigin
- Divi
Inspiro Blocks
- Inspiro Blocks เป็นธีมบล็อกสำหรับ WordPress ที่รองรับ Full Site Editor ใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์หลากหลาย
- เทมเพลตมากมายปรับแต่งได้ตามต้องการ
- บล็อกแพทเทิร์นสร้างองค์ประกอบเว็บไซต์ได้ง่าย
- รูปแบบสีสันโดนใจ ปรับสีได้ตามใจชอบ
- ธีมนี้เหมาะมากกับ Blogger, ช่างภาพ, ครีเอทีฟ, ธุรกิจขนาดเล็ก เพราะแสดงผลงานแบบ Grid หรือ Masonry และรองรับ GDPR ซึ่ง ปลอดภัยและมั่นใจได้
Ashe
- Ashe เหมาะกับเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ สุขภาพ อาหาร การทำขนม ท่องเที่ยว ความงาม และบล็อกส่วนตัว
- ด้วยดีไซน์เรียบง่ายและสไตล์มินิมอลที่กำลังฮิตกัน ทำให้เนื้อหาในเว็บไซต์ดูเด่นและมาพร้อมคุณสมบัติ
- WooCommerce: เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์
- รองรับการใช้งานหลายภาษา
- SEO พร้อมช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับในการค้นหา
Zakra
- Zakra เป็นธีม WordPress ที่ทรงพลังและยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน ช่วยให้สร้างเว็บไซต์ที่สวยงามและดูมืออาชีพได้ง่าย ๆ มาพร้อมคุณสมบัติเด่นมากมาย
- ธีมสำเร็จรูปกว่า 40 แบบ: เลือกธีมที่เหมาะกับบล็อก, เว็บข่าว, ร้านค้าออนไลน์, พอร์ตโฟลิโอ, เว็บไซต์ธุรกิจ, LMS, และอื่น ๆ
- ใช้งานง่ายแค่ลากและวางอีก ทั้งยังรองรับ Page Builder ยอดนิยม
- Zakra ถูกออกแบบให้โหลดเร็ว รองรับมือถือด้วย Mobile-first responsive design
- SEO Friendly ออกแบบมาให้เข้ากับเครื่องมือค้นหา ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับได้ง่ายขึ้น
GeneratePress
- GeneratePress เป็นธีม WordPress ที่เน้นความเบาและความเร็ว เว็บไซต์ที่ติดตั้งใหม่จะมีขนาดไม่ถึง 10kb (gzipped) ทำให้โหลดเร็วมาก
- จุดเด่นของ GeneratePress คือ
- รองรับ Gutenberg Editor ที่ปรับแต่งเนื้อหาได้อย่างอิสระ
- รองรับ Page Builder ทุกตัวและใช้ร่วมกับ Beaver Builder, Elementor และอื่น ๆ ได้
- รองรับปลั๊กอินยอดนิยม เช่น WooCommerce
- รองรับการแปลมากกว่า 25 ภาษา
ตัวอย่าง ธีม&ปลั๊กอิน ที่น่าสนใจของ WordPress
5 ปลั๊กอินควรมีติดเว็บไซต์เอาไว้
ปลั๊กอินที่จะมาแนะนำวันนี้ หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องมีติดเว็บไว้ ด้วยฟีเจอร์และคุณสมบัติที่สำคัญ พร้อมจะพาให้เว็บไซต์ของเราโบยบินอย่างคุณภาพ ดังนั้นพลาดไม่ได้ที่จะติดตั้งปลั๊กอินเหล่านี้
YOAST SEO
- Yoast SEO เป็นปลั๊กอินยอดนิยมเหมือนเพื่อนสนิทสำหรับคนคิดจะทำ SEO บน WordPress เพราะสามารถปรับแต่งและปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับหลักการ SEO
- ถ้าหน้าเว็บมีบทความบน WordPress, YOAST SEO จะทำการวิเคราะห์และให้ฟีดแบ็คโดยใช้สัญลักษณ์
- สีเขียว (ดี)
- สีส้ม (ต้องปรับปรุง)
- สีแดง (ต้องแก้ไข)
- YOAST SEO จะตรวจสอบความยาวของข้อความ, คำหลัก, ความถี่ในการใช้คำ, และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่สำคัญสำหรับ SEO
- สามารถปรับแต่ง Meta Description และ Title Tag ให้เหมาะสมเพื่อการแสดงผลที่ดึงดูดในผลการค้นหา
- Yoast SEO มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน แบบเสียเงินมีราคาอยู่ที่ 99 $/ปี
AKISMET
- หากเว็บไซต์ของคุณต้องการที่จะรักษาความสะอาดและคุณภาพของคอมเมนต์ Akismet จะเป็นปลั๊กอินตัวช่วยที่ ทำหน้าที่กรองและตรวจจับคอมเมนต์สแปมและคอมเมนต์ที่ไม่เหมาะสม
- Akismet ช่วยลดการทำงานที่ไม่จำเป็นของเรา อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูงและใช้งานง่าย การันตีเว็บไซต์มีคุณภาพมากขึ้นแน่นอน
- Akismet รองรับได้ถึง 73 ภาษา ทำให้สามารถใช้งานได้ทั่วโลก
Elementor
- ปลั๊กอินตัวนี้หากใครยัง งงๆ ไม่รู้จะเริ่มสร้างหน้าเว็บยังไง Elementor คือคำตอบเพราะเป็นปลั๊กอิน Page Builder ที่ใช้งานง่ายมาก
- สร้างเลย์เอาต์ของเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายและอิสระและตามที่ต้องการ แค่ลากและวางเท่านั้น
- มีหลากหลายองค์ประกอบสำเร็จรูปที่ใช้งานได้ทันสมัย เช่น เท็มเพลต, ภาพหน้าจอ, แผนที่, แบนเนอร์ เหมาะกับเว็บไซต์เกือยทุกประเภทบนโลก
WooCommerce
- ถ้าจุดประสงค์ของหน้าเว็บไซต์ = ร้านค้า ปลั๊กอิน WooCommerce ก็คือตอบโจทย์ที่สุด โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการระบบซื้อ-ขายที่ครอบคลุมและง่ายต่อการใช้งาน
- WooCommerce มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ครอบคลุมทั้งการจัดการคลังสินค้า, ระบบชำระเงิน, และการสร้างโฆษณา และเปลี่ยนโฉมเว็บไซต์ให้กลายเป็นร้านค้าเต็มรูปแบบ
- WooCommerce มีเวอร์ชันฟรีที่ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทำให้เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ร้านค้าได้ด้วยตัวเอง
Redirection
- บางครั้งการเปลี่ยน URL ของเว็บไซต์ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเมื่อต้องการปรับปรุงโครงสร้างหรือส่วนของเนื้อหา
- แต่ทุกอย่างจะง่ายดายหากมีปลั๊กอินที่ชื่อว่า Redirection เพราะว่ามันจะช่วย
- ช่วยให้คุณสามารถย้าย URL และตั้งค่า Redirect 301 (ถาวร)
- ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบและบันทึกการเรียกดูของ URL เพื่อทราบถึงการใช้งานและการเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ ในเว็บไซต์
- และยังสามารถรักษาและบริหารจัดการ URL ให้เป็นไปตามหลัก SEO ไม่ทำให้เว็บตกอันดับแน่นอน
สรุป
จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมา หากคุณอ่านแล้วตอนนี้ก็จะพร้อมในการเป็นฟรีแลนซ์นักออกแบบเว็บไซต์ WordPress แล้วแน่ๆ การเริ่มต้นเป็นฟรีแลนว์ออกแบบเว็บไซต์นั้นไม่ยาก เพียงแค่มีความตั้งใจ มีไฟและใจรัก คุณก็เป็นได้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่จะวัดว่าคุณเหมาะกับงานนี้จริงก็คือการรักษาระดับมาตรฐานทักษะและฝีมือ เพื่อให้อยู่รอดในวงการนี้ได้นานเท่านานต่างหาก หวังว่าแนวทางทั้งหมดนี้จะเป็นเครื่องมือที่พอจะกรุยทางสำหรับมือใหม่ที่อยากเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ ให้สามารถเข้าวงการและมีงาน+รายได้หาเลี้ยงชีพได้ยาวๆ