เมื่อก่อนหลายคนคงจะคิดว่าหากเราไม่มีเงินทุนหรือไอเดียสำหรับทำธุรกิจแล้วก็คงมีแค่งานประจำเท่านั้นที่จะทำได้ แต่ขอบอกว่าปัจจุบันมันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว มีหลากหลายอาชีพสามารถสร้างรายได้ไม่น้อยโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนมากมายหรือต่อยอดธุรกิจอะไร หนึ่งในอาชีพนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการเป็น Influencer การขายอินเนอร์ความเป็นตัวเอง เหมือนกับตัวเองคือแบรนด์อย่างหนึ่งที่ผู้คนชื่นชอบ เป็นหนึ่งอาชีพยุคใหม่ที่ฮิตฮอตและสร้างรายได้มากกว่าที่คุณคิด
ค้นพบพลังของ Influencer ในตัวคุณ
Influencer คืออะไร? อาจจะเป็นคำศัพท์ที่ไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่ Influencer มันก็คล้ายๆ กับ เน็ตไอดอล ที่เราเคยใช้คำศัพท์นี้เมื่อตอนยุค 2000 ก็คือคนดังในสื่อออนไลน์ทั้งหลายไม่ว่า Facebook , Instagram , YouTube , TikTok โดยพวกเขามีความน่าสนใจและมีอิทธิพลต่อผู้ติดตาม
อะไรคือสิ่งที่คุณหลงใหล?
- ก่อนที่เราจะเป็น Influencer ได้ ก่อนอื่น เราลองถามตัวเองก่อนว่าที่เราอยากเป็น Influencer เพราะว่า
- อยากดัง มีชื่อเสียง
- อยากมีรายได้เยอะๆ
- อยากสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น
- อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- จะบอกว่าคำตอบทุกอย่างถูกต้องหมด! ทุกคนล้วนมีเหตุผลในตัวเอง แต่เราต้องยึดมั่นในสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่แรกให้ดี เพราะการเป็น Influencer นั้นเป็นอาชีพที่ชื่อเสียงมีทั้งขาขึ้นขาลง
- หากเราปล่อยใจและความความคิดไปกับกระแสที่ดีและไม่ดี เราอาจจะสูญเสียตัวตนได้และนั่นคือข้อสำคัญในการเป็น Influencer
ความรู้หรือทักษะเฉพาะทาง
- การจะเป็น Influencer นั้นเราต้องค้นพบบางอย่างในตัวเราก่อน โดยเฉพาะความรู้หรือทักษะที่เราจะใช้ในการ ขายตัวตนของเรา
- คุณอาจเป็น นักเดินทางตัวยง ที่มีรูปถ่ายสวยๆ และเรื่องราวการผจญภัยที่น่าสนใจ
- คุณอาจเป็น เชฟฝีมือดี ที่สามารถรังสรรค์เมนูเด็ดๆ
- คุณอาจเป็น นักดนตรี ที่มีพรสวรรค์ในการแต่งเพลง
- คุณอาจเป็น ผู้เชี่ยวชาญ ในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น การเงิน กฎหมาย สุขภาพ
- สิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ล้วนเป็นผลมาจากการหล่อหลอมในอดีตจนมาเป็นตัวคุณในเวอร์ชั่นปัจจุบัน ที่มาพร้อมความรู้หรือทักษะเฉพาะทาง จากนี้เราก็แค่ต้องนำเสนอสิ่งที่เราเป็นสู่สายตาผู้คน
อะไรที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น?
- ใช่! การมีความรู้หรือทักษะเฉพาะทางจะทำให้เราค้นพบแนวทางหรือกลุ่มเป้าหมายของเรา แต่ถ้าหากเราต้องการขายชื่อเสียงของเราให้โด่งดังไปอีก จำเป็นต้องมีบางสิ่งที่คุณแตกต่างจากคนอื่น!
- สิ่งที่ว่านั้นคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น
- หากเรารู้ตัวว่าเป็นคนทำอาหารเก่งและร้องเพลงเก่งด้วย อาจจะทำช่องยูทูปทำอาหาร+ร้องเพลง เหมือนกับรายการเพลงอร่อยมาก ที่โด่งดังใน YouTube
- หรือหากเราเป็นคนชอบการท่องเที่ยวและเป็นคนตลกโปกฮา อาจจะทำรายการท่องเที่ยวแบบฉีกๆ เหมือนช่องกวนป่วนเที่ยวบน TikTok
- จากตัวอย่างที่ยกมานั้นหากไม่มีสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น รายการเพลงอร่อยมากก็คงเป็นรายการทำอาหารหรือรายการร้องเพลงทั่วไป หรือกวนป่วนเที่ยวอาจจะกลายเป็นรายการเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง
คุณมีกลุ่มผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหรือไม่?
- ต้องบอกก่อนว่าการที่เรายังไม่มีฐานผู้ติดตามนั้นไม่ใช่เรื่องผิด! แต่หากเรามีฐานผู้ติดตามอยู่บ้างจะทำให้การเป็น Influencer นั้นง่ายขึ้นเท่านั้นเอง
- กลุ่มผู้ติดตามเดิมของเราเปรียบเสมือนการมี “กองทัพ” ที่พร้อมสนับสนุนและรับฟังเราสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม
- ผู้ติดตามมีความสำคัญในการเป็น Influencer อย่างมากเพราะสามารถเป็นปัจจัยในการกำหนดรายได้ของเรา
- ยิ่งผู้ติดตามมากทำให้คนรู้จักคุณ แบรนด์ของคุณ และสิ่งที่คุณทำ
- ยิ่งผู้ติดตามมากแสดงให้เห็นว่าคุณมีความสามารถ มีความน่าสนใจบางอย่าง
- ยิ่งผู้ติดตามมากยิ่งดึงดูดแบรนด์และธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็เป็นการสำรวจตัวเองเบื้องต้นในการเริ่มเป็น Influencer หากมีคุณสมบัติอย่างน้อย 2 ใน 5 อย่างนี้ ก็เข้าข่ายสามารถเป็น Influencer ได้แล้วล่ะ เพราะปัจจุบันไม่มีอะไรมาจำกัดนิยามในการเป็น Influencer ได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เพศอะไร ถิ่นฐานจากไหน ทุกคนสามารถเป็น Influencer ได้ ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้เป็นเพียงแค่ข้อมูลในการอ้างอิง Influencer ส่วนใหญ่เท่านั้น

สัญญาณที่บ่องบอกว่าคุณเอง ก็เป็น Influencer ได้
เทคนิคการเพิ่มยอดผู้ติดตาม
การเพิ่มยอดผู้ติดตามเป็นสิ่งที่ Influencer ทุกคนต้องการ เพราะยิ่งมีผู้ติดตามเยอะมากขึ้นก็ยิ่งได้เปรียบมากขึ้นในวงการเป็น Influencer และนี่คือเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้ดึงดูดและรักษาผู้ติดตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- ใครคือผู้ติดตามของเรา : คนเพศไหน คนช่วงวัยไหน
- รู้ว่าพวกเขาชอบอะไร สนใจอะไร : มีความสนใจในแนวทางเดียวกับที่เราจะเป็น Influencer
- จากนั้นก็คิดและสร้างเนื้อหาที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจของพวกเขา
ใช้เทรนด์และแฮชแท็ก
- ติดตามและใช้เทรนด์ใหม่ๆ ในการสร้างคอนเทนต์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ติดตามอีกมากมาย
- #แฮชแท็ก เป็นเหมือนกุญแจสู่โลกที่กว้างขึ้น ยิ่งมีการติดและใช้มากเท่าไหร่เนื้อหาของเราก็จะเข้าถึงผู้คนเท่านั้น
- การทำชาเลนจ์ (Challenge) ที่ทันกระแสก็จะช่วยให้ผู้คนได้รู้จักเรามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอินฟลูสายเต้น ที่มักจะมี Challenge ใหม่ๆ อยู่เสมอ
มีส่วนร่วมกับผู้ติดตาม
- Influencer ที่ดีและสามารถรักษามาตรฐานของกลุ่มผู้ติดตามไว้ได้ คือบุคคลที่มักจะมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ
- วิธีมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามแบบง่ายๆ ก็คือ
- การตอบกลับคอมเม้นต์
- การทำคอนเทนต์ถาม-ตอบ ให้ผู้ติดตามมีส่วนร่วม
- จัดกิจกรรมพิเศษ แจกรางวัล วอยเชอร์ ให้ผู้ติดตามได้มีส่วนร่วม
- ถ้า Influencer เปรียบเสมือนธุรกิจ ผู้ติดตามก็เหมือนลูกค้า ดังนั้นการรักษาลูกค้าย่อมสำคัญกว่าการหาลูกค้าใหม่แน่นอน
ร่วมงานกับ Influencer คนอื่น
- หลายครั้งที่เราจะเห็น Influencer มา Collab หรือทำงานร่วมกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอินฟลูในสายเดียวกัน ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
- Pigkaploy X The Gaijin Trips – เมื่ออินฟลูสายท่องเที่ยว 2 คนทั้ง มาทำคลิปวิดีโอเดินทางร่วมกัน จนเกิดเป็นคอนเทนต์ดึงดูดผู้ติดตามให้เพิ่มขึ้น
- โดยเฉพาะ Influencer ที่กำลังเริ่มต้นในเส้นทางนี้ การได้พันธมิตรคอยช่วยเหลือเพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตามก็เหมือนได้ใบเบิกทางในวงการนั่นเอง
ใช้แพลตฟอร์มหลากหลาย
- มีช่องทางมากมายที่พร้อมจะดันเราให้กลายเป็นซุปตาร์ ทั้ง
- TikTok
- YouTube
- X หรือ Twitter
- ช่องทางที่กล่าวมานี้ Influencer มือใหม่ควรจะมีบัญชีแต่ละแพลตฟอร์มไว้เพื่อเพิ่มโอกาศในการเข้าถึงผู้คนให้มากที่สุดก่อน
- ส่วนแพลตฟอร์มไหนเหมาะสมที่สุด? เราจะไปคุยกันในหัวข้อถัดไป
โพสต์อย่างสม่ำเสมอ
- จะเป็นอย่างไรหาก Influencer ที่เราติดตาม ไม่ได้อัพเดทข่าวสารเนื้อหาอะไรเลยเป็นเวลา 6 เดือน แน่นอนว่าบางคนก็คงลืมหรือไปติดตามคนใหม่ๆ กันแล้ว
- ดังนั้นการวางแผนทำคอนเทนต์เพื่อเผยแพร่อยู่เป็นประจำนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ Influencer ขาดไม่ได้
- บางคนอาจจะคิดว่าการทำอะไรแบบนี้เหมือนเป็นงานอดิเรกมากกว่า ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณต้องการเป็นอินฟลูมืออาชีพเมื่อไหร่การสร้างและนำเสนอเนื้อหาจะต้องเป็นงานหลักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
เลือกช่องทางที่เหมาะกับคุณ
ในเมื่อเรารู้ตัวเองแล้วว่าอยากจะเป็น Influencer สายไหน? มีวิธีการนำเสนออย่างไร? จุดเด่นของตัวเราในการเป็นไอดอลคืออะไร ทีนี้เราก็ต้องหาช่องทางปล่อยของให้ดี ซึ่งในขั้นแรกเราอาจจะเลือกทุกช่องทางในการนำเสนอตัวตนของเราและนั่นก็ไม่ผิด กลังจากที่เราเริ่มจับจุดได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเขาหมกตัวกันอยู่ในแพลตฟอร์มไหน เราก็จะเริ่มเน้นที่ช่องทางนั้นมากขึ้น
- Facebook เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกทำให้มีฐานผู้ชมที่หลากหลายและกว้างขวาง สำหรับ Influencer ทุกประเภท
- Facebook เหมาะกับ content แบบใด?
- รูปภาพและวิดีโอ : Facebook รองรับการนำเสนอคอนเทนต์แบบรูปภาพนิ่ง วิดีโอแบบสั้นและยาว การไลฟ์สด ซึ่ง Influencer สามารถปล่อยของ ไอเดียสุดเจ๋งได้อย่างหลากหลาย
- โพสต์บล็อก : สำหรับใครที่ชอบการอ่าน Facebook ก็มีคอนเทนต์แบบเขียนยาวๆ ให้อ่านกันฉ่ำๆ เหมาะกับอินฟลูสายเล่าเรื่องสายนักเขียน
- บทความและข่าวสาร : Facebook เป็นที่นิยมสำหรับการแชร์บทความข่าวสารและเนื้อหาที่ต้องการการอ่านและการแสดงความคิดเห็น
- จัดกิจกรรม : ใน Facebook จะมีฟีเจอร์สำหรับการประกาศกิจกรรมที่น่าสนใจซึ่งอินฟลูที่ต้องการพบปะผู้คนหรือมีความสามารถในเชิงกิจกรรม ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง
- โดยรวมแล้ว Facebook นับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างสำหรับ Influencer ทุกสาย ทุกประเภท เพราะสามารถนำเสนอคอนเทนต์ของตัวเองได้ในทุกๆ รูปแบบ
- Instagram เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เน้นการแชร์รูปภาพและวิดีโอ เหมาะอย่างมากสำหรับ Influencer ที่เน้นการสร้างเนื้อหาด้านความสวยงาม แฟชั่น ความ sexy และรวมไปถึงวีดีโอเท่ๆ สวยๆ
- ด้วยฟีเจอร์ของ Instagram เช่น
- ภาพถ่ายและวิดีโอคุณภาพสูง : ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปแนวไหน วิดีโอแบบไหน ขอแค่เน้นคุณภาพก็สามารถสร้างคอนเทนต์บนโลก IG ได้ไม่จำกัด
- Stories : การสร้างคอนเทนต์แบบชั่วคราวเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม
- Reels : การสร้างและตัดต่อวิดีโอสั้นที่สนุกสนานและมีความคิดสร้างสรรค์
- IGTV : วิดีโอแบบยาวที่ให้รายละเอียดเชิงลึกและมีเนื้อหาที่เน้นความรู้หรือประสบการณ์
- ทำให้ Instagram เป็นที่นิยมสำหรับ Influencer สายบิวตี้บล็อกเกอร์ , สายแฟชั่น หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องการสร้างคอนเทนต์รูปภาพและวิดีโอเป็นหลัก
- ตัวอย่าง Influencer ใน Instagram
- Chiara Ferragni เป็น Influencer ด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ เน้นทำเนื้อหาภาพถ่ายสไตล์แฟชั่นของตัวเองและการเดินทาง
- Nusret Gökçe หรือที่รู้จักกันในนาม Salt Bae เป็นเชฟที่มีชื่อเสียง ตัวเขาใช้ Instagram เพื่อแชร์วิดีโอและภาพถ่ายการทำอาหารที่มีสไตล์เฉพาะตัว
TikTok
- ด้วยความที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่ ทำให้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นที่นิยมสำหรับ Influencer อย่างมาก
- เนื้อหาของ TikTok ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการสร้างและตัดต่อวิดีโอสั้นๆ ให้น่าสนใจ สามารถเข้าถึงผู้ชมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพราะสมัยนี้คนชอบดูอะไรสั้นๆ กระชับ ใช้เวลาน้อย
- ประเภทของคอนเทนต์ที่เหมาะกับ TikTok
- การเต้นและการแสดง : นิยมสุดๆ ไปเลยสำหรับการเต้นตามชาเลนจ์ต่างๆ รวมไปถึงการแสดงละครสั้น เหมาะกับ Influencer สายเต้นและแสดง
- วิดีโอฮาวทู (How-to) : การสอนทำสิ่งต่างๆ เช่น ทำอาหาร แต่งหน้า อันนี้เหมาะกับอินฟลูเกือบทุกประเภท เพียงแค่ประยุกต์ความรู้ของเราเอาออกมาสอนให้น่าสนุก
- วิดีโอตลก : วิดีโอตลกขบขันและมีความสร้างสรรค์ สามารถสร้างไวรัลได้ด้วยทุกที่แหวกและแตกต่าง
- ดนตรี : การลิปซิงค์หรือการแสดงดนตรีเป็นที่ได้รับความนิยมมากบน TikTok อินฟลูสายนักร้อง/นักดนตรีต้องมีสำหรับคอนเทนต์แบบนี้
- ตัวอย่าง Influencer ใน TikTok หรือที่นิยมเรียกว่า ดาว TikTok
- รัชนก สุวรรณเกตุ (@janeydm) | TikTok – Influencer แนวไลฟ์สไตล์ที่เผยให้เห็นชีวิตส่วนตัวในทุกๆ ด้าน ด้วยผู้ติดตามกว่า 16.9 ล้านคน
- อะต๋อม (@atom2255) | TikTok – Influencer สายฮาเน้นนำเสนอเนื้อหาตลกขบขัน ปนน่ารัก
YouTube
- YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นช่องทางนี้จึงมีไว้สำหรับ Influencer ที่เน้นการนำเสนอคอนเทนต์แบบวิดีโอยาวเป็นหลักเท่านั้น แม้ว่าฟีเจอร์ภายในจะมีแบบ Shortclip ก็ตาม
- คอนเทนต์ที่เหมาะกับ YouTube
- วิดีโอบล็อก (Vlog) : การแชร์ชีวิตประจำวัน ประสบการณ์การท่องเที่ยว หรือกิจกรรมต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยม อาจจะเหมาะกับอินฟลูสายทุย สายเที่ยว สายกิน
- คอนเทนต์บันเทิง : วิดีโอตลก มิวสิควิดีโอ การแสดง และสตรีมเล่นเกม คอนเทนต์เหล่านี้ล้วนต้องการนำเสนอในรูปวิดีโอเท่านั้นจึงจะได้อรรถรส ดังนั้นจึงเหมาะกับอินฟลูสายนี้ที่ชอบการแสดง เล่นเกม ร้องเพลง
- การสัมภาษณ์และพอดแคสต์ : เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ที่น่าสนใจบน YouTube อย่างมากและกำเนิดอินฟลูสายสัมภาษณ์พูดคุยหรือจะเป็นแนวพอดแคสต์ก็มีช่องที่น่าสนใจไม่น้อย
- ตัวอย่าง Influencer ใน YouTube
- ป๋าเต็ด – YouTube – ช่องยูทูปแนวสัมภาษณ์ที่เชิญศิลปินและคนมีชื่อเสียงมาสัมภาษณ์แบบเจาะลึกถึงใจ
- HEARTROCKER – YouTube – ช่องยูทูปแนวสตรีมเกมที่มักจะโดดเด่นด้วยน้ำเสียงและลีลาการเล่นเกมที่สนุกโดนใจทุกวัย
- DEEN VLOG – YouTube – ช่องยูทูปแนวไลฟ์สไตล์ทั้งท่องเที่ยว ความรู้และสนุกสนาน
โดยแต่ละแพลตฟอร์มที่กล่าวมานั้นมีกลุ่มเป้าหมายและรูปแบบเนื้อหาที่เหมาะสมแตกต่างกันไป เช่น กลุ่มเป้าหมายสำหรับเด็กรุ่นใหม่ อาจจะเลือกใช้ TikTok น่าจะตรงกลุ่มกว่า กลุ่มวัยกลางคนชอบเสพข่าวอาจจะเลือกใช้ Facebook เป็นต้น

ความแตกต่างและจุดเด่นของแพลตฟอร์มแต่ละช่องทาง
เนื้อหาต้องเด่น Content ต้องน่าสนใจ
การเริ่มเป็น Influencer ส่วนที่ปวดหัวที่สุดคงจะเป็นการนำเสนอเนื้อหาหรือคอนเทนต์ ซึ่งเบื้องต้นก็ต้องนำเสนอประเภทเนื้อหาหรือสกิลที่เราถนัด จากนั้นก็ต้องคิดให้ลึกกว่าเดิมคือ จะนำเสนอยังไงให้น่าสนใจ? จะทำยังไงให้คนรู้จักเราในบทบาทนี้?
ทำคอนเทนต์ตามกลุ่มเป้าหมายที่อยากได้
- จริงอยู่ที่แพลตฟอร์มและกลยุทธ์มีบทบาทมากในการเป็น Influencer แต่เนื้อหาคือหัวใจสำคัญที่จะดึงดูดผู้ติดตามมาสนใจในตัวเรา ว่าเราต้องการสื่อสารอะไร เช่น
- หากเราอยากเป็น Influencer สายการลงทุน ก็ต้องทำเนื้อหาที่เน้นให้ความรู้ด้านการเงินอย่างทำพอดแคสต์หรือสร้างเพจให้ข้อมูลการลงทุน จึงจะได้กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ
- หมั่นคิดหาวิธีใหม่ๆ อย่ากลัวที่จะทดลอง เรียนรู้ในการนำเสนออะไรที่มันแปลกใหม่แตกต่างจากคนอื่น โดยมีความเป็นตัวเราให้เยอะที่สุด
ภาพลักษณ์และสไตล์โดดเด่นกว่าใคร
- การมีภาพลักษณ์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เปรียบเสมือนลายเซ็นที่บ่งบอกถึงตัวตนของ Influencer คนนั้น มันทำให้โดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นๆ
- ภาพลักษณ์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการแต่งตัวเท่านั้น แต่หมายถึงบุคลิก น้ำเสียง คำติดปากที่จะทำให้คนจำเราได้
- ยกตัวอย่างเช่น ช่องยูทูปบอลพาเที่ยว อินฟลูสายท่องเที่ยวที่ขับเวฟเที่ยวทั่วไทย พร้อมกับคำพูดติดปากว่า ไปกันต่อ!!!
รูปแบบเนื้อหาที่หลากหลาย
- การนำเสนอเนื้อหาในหลายๆ รูปแบบอาจจะยิ่งทำให้ผู้ติดตามรู้สึกว่า Influencer คนนี้ มีความน่าสนใจในเนื้อหา ไม่ซ้ำซากจำเจ
- ตัวอย่างรูปแบบเนื้อหาที่หลากหลายเช่น เพจท่องเที่ยวหนึ่งนำเสนอคอนเทนต์ทั้งรูปภาพ วิดีโอ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพื่อให้คนติดตามของเพจรู้สึกไม่น่าเบื่อมีคอนเทนต์ให้เสพได้หลากหลาย
- ช่อง Go Went Go – อินฟลูสายท่องเที่ยวที่มักจะมีเนื้อหาทั้งรูปภาพนิ่งและวิดีโอ
ถึงเวลาสร้างรายได้ !
เดินทางมาถึงขั้นนี้แล้ว เป็น Influencer ที่มีผู้ติดตามมากมาย ก็ต้องเริ่มสร้างรายได้ถอนทุนกันเลย โดยช่องทางการหารายได้ของเหล่า Influencer นั้นมีหลายช่องทางและรายได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเช่น ผู้ติดตาม การนำเสนอที่น่าสนใจ เป็นต้น
ต่อสายตรง
- อย่าอายที่เราติดต่อไปหาธุรกิจหรือแบรนด์ที่เราคิดว่าเรามีไอเดียในการโฆษณาให้กับสินค้าหรือบริการเหล่านั้น ซึ่งไม่แน่อาจจะได้ร่วมงานกันยาวๆ ก็เป็นได้
- และยิ่งถ้าตัวเราเป็นที่รู้จักในวงการมากขึ้นก็สามารถต่อรองรายได้ให้เพิ่มขึ้น ยิ่งถ้ามีแบรนด์สองแบรนด์มาแย่งกันประมูลค่าจ้างยิ่งฟินไปใหญ่
- อีกรณีหนึ่งก็คือธุรกิจหรือแบรนด์อาจจะติดต่อเรามาเองในช่องทางต่างๆ หากเรามีชื่อเสียงที่โด่งดังมากพอและเป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจนั้น
- ยกตัวอย่างเช่น PEACH EAT LAEK – อินฟลูสายกินที่หลายร้านค้าติดต่อเพื่อให้เข้าไปรีวิวด้วยตัวเอง
ขายของเองซะเลย
- การที่เรามีผู้ติดตามอยู่ในมืออยู่แล้ว มันมีทางเลือกให้หลากหลายกว่าเดิมซึ่งทางนั้นก็คือ ทำธุรกิจของตัวเองมาควบคู่ไปด้วย
- พูดอย่างเดียวอาจจะมองภาพไม่เห็น ขอยกตัวอย่างอินฟลูสายเทคโนโลยี 9arm ที่ปกติเนื้อหาของช่องยูทูปจะเป็นแนวพอดแคสต์พูดคุยให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ แต่ก็มีสินค้าของช่องเปิดขายด้วยเช่นกัน ซึ่งมีทั้ง
- เสื้อยืด
- ถุงผ้า
- Mouse Pad
- สาย Lan
- จากตัวอย่างก็ถือว่าเป็นการต่อยอดที่น่าสนใจ ในเมื่อเรามีผู้ติดตาม = มีฐานลูกค้านั่นเอง
ทำ Affiliate Marketing
- อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าหากเรามีผู้ติดตามเยอะเราก็ยิ่งได้เปรียบในการสร้างรายได้ ซึ่งตอบโจทย์ในการทำ Affiliate อย่างมาก
- Affiliate Marketing คือรูปแบบการขายแบบนายหน้าที่เราจะได้รับค่าคอมจากการโปรโมทลิงค์ของร้านค้า เมื่อมีคนกดสั่งซื้อสินค้าจากลิงค์ที่เราโปรโมท ทางร้านค้าก็จะจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับเราตามที่ตกลงกัน
- การจะได้ลิงค์เพื่อนำไปโปรโมทนั้นก็ต้องเริ่มจากลงทะเบียนในแพลตฟอร์มช้อปปิ้งต่างๆ เช่น Shopee , Lazada จากนั้นก็รับลิงค์โปรโมทจากร้านค้าต่างๆ ได้เลย
- ยิ่งถ้าเรามีผู้ติดตามเยอะเท่าไหร่โอกาสในการที่จะมีคนซื้อสินค้าจากลิงค์ของเราก็มีเยอะเท่านั้น นี่คือช่องทางโกยเงินเห็นๆ !

การทำงานระบบ Affiliate Marketing
ตัวอย่าง Influencer ที่ประสบความสำเร็จ
จากงาน Thailand Influencer Awards 2023 (ปี 2024 จะจัดในเดือนตุลาคม) นั้นได้มีการจัดอันดับ Influencer ในแต่ละประเภทที่ได้รับรางวัลโดยเน้นคอนเซปต์ ‘Glow & Grow Together’ สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่าและยกระดับ Influencer Community ซึ่งสามารถแบ่ง Influencer ต่างๆดังนี้
สาขารางวัลที่ได้รับ |
Influencer |
Best Foodie Influencer |
|
Best Entertainment Influencer |
|
Best Travel Influencer |
|
Best Gaming Influencer |
|
Best Podcast Influencer |
ในงานยังมี Influencer อีกหลายแขนงซึ่งได้รับรางวัลที่น่าสนใจมากมาย โดยเป็นอินฟลูที่คนไทยเรามักรู้จักกันดีและมีผู้ติดตามระดับหลักล้านคนทั้งนั้น
สรุป
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ก็แสดงว่าพร้อมจะเป็น Influencer แล้วใช่ไหม? ดังนั้นอย่างลืมว่าวิธีการที่บอกไปทั้งหมดเกี่ยวกับการเริ่มต้นเป็น Influencer นั้น ทุกขั้นตอนถือว่าสำคัญทั้งสิ้น การเริ่มค้นหาตัวเองว่าชอบออะไร ถนัดอะไร การเริ่มต้นวางแผนสร้างคอนเทนต์เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก การเลือกช่องทางโปรโมทตัวเอง การเดินทางเหล่านี้ล้วนให้ประสบการณืแก่ Influencer ทั้งสิ้น จากนั้นเมื่อได้ผู้ติดตามในระดับที่เยอะพอสมควรก็ถึงเวลาโกยเงินให้เต็มที่ !