การตลาดแบบมีตัวแทนขาย ตัวแทนจัดจำหน่าย นั้นมีมาอย่างยาวนานแล้ว แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและการสื่สารที่ง่ายดายมากขึ้น การตลาดแบบตัวแทนขาย ได้วิวัฒนาการมาเป็น Affiliate Marketing อย่างรวดเร็ว โดยคอนเซปต์การทำการตลาดก็เหมือนกับการเป็นตัวแทนขายในอดีต เพียงแต่ว่าการเจาะตลาดจะเน้นไปในทางออนไลน์มากกว่า ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า ปี 2024 นี้โลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว การทำ Affiliate Marketing ได้กลายมาเป็นอาชีพเสริมในช่วงแรกและค่อยๆ เริ่มกลายมาเป็นอาชีพหลักเพิ่มมากขึ้น นั่นก็เพราะผู้บริโภคนิยมซื้อขายกันบนช่องทางออนไลน์เป็นหลัก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ให้การตลาดแบบ Affiliate เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
การเติบโตและแนวโน้มของ Affiliate Marketing ในปัจจุบัน
- ปี 2024 Affiliate Marketing กลายมาเป็นเกมพลิกโลกการตลาดยุคดิจิทัล ผู้คนทั่วไปสามารถสร้างรายได้โดยไม่ต้องลงทุน เพียงแค่แนะนำสินค้าหรือบริการของผู้อื่นผ่านช่องทางออนไลน์ของตนเอง
- แล้วอะไรคือแรงผลักดันให้ Affiliate Marketing เติบโตอย่างต่อเนื่อง? คำตอบคือ ความสะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
- สถิติจาก The State of Affiliate Marketing : Benchmark Report รายงานว่า ปี 2024 นี้ มูลค่าของการตลาดแบบ Affiliate ทั่วโลก อยู่ที่ประมาณ 15.7 พันล้านดอลลาร์
- รายละเอียดเพิ่มเติมจากรายงานยังพบอีกว่า ขณะนี้บริษัททั่วโลกเน้นทำการตลาดแบบ Affiliate มากกว่า 9,000 แห่ง
- ปัจจุบันมีรายงานการค้นหาการทำ Affiliate Marketing บน Google Trend มากขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัว
- แล้วในปี 2024 นี้ Affiliate Marketing นิยมโปรโมทสินค้า/บริการประเภทใด เป็นหลัก? จากข้อมูลของ Influencer Marketing Hub มีรายละเอียดดังนี้
- คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ (40%)
- เสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย (41%)
- บริการออนไลน์ (30%)
- เครื่องประดับ (29%)
- ผลิตภัณฑ์ความงาม (28%)
- มาในส่วนของรายได้จากการโปรโมทสินค้า/บริการ ผ่าน Affiliate Program มีรายงานจาก PMA พบว่า รายได้จาก Affiliate Marketing นั้นมาจากกลุ่มสินค้าที่โดดเด่นที่สุดคือ
- การค้าปลีก : 84% แบ่งย่อยเป็น สินค้าแฟชั่น / ผลิตภัณฑ์ความงาม / เครื่องใช้ในบ้าน ตามลำดับ
- การท่องเที่ยว: 10%
- ความบันเทิงและสื่อ 2%
- สถาบันการเงิน: 1%
- โทรคมนาคม: 1%
- แนวโน้มของการตลาดแบบ Affiliate ยังไม่หยุดแค่นี้ ในอนาคต Affiliate Marketing จะกลายเป็นอาชีพใหม่แบบ Fulltime ที่คนยุคใหม่นิยมเลือกทำกัน
ตัวอย่างสถิติเกี่ยวกับสินค้า Affiliate
งาน Affiliate ที่สามารถทำเป็นงาน Fulltime
จากข้อมูลสถิติการเติบโตและแนวโน้มของงาน Affiliate Marketing เราพบว่ามีสินค้า/บริการที่ได้รับความนิยมจากการทำ Affiliate อยู่ไม่น้อย ทีนี้เรามาดูกันว่า มีงาน Affiliate แบบไหนบ้างที่เราสามารถประยุกต์ทำมันให้กลายเป็นงาน Fulltime รายได้หลักของเรา
บล็อกเกอร์ (Blogger)
- การทำ Affiliate โดยใช้ช่องทางการทำ Blog หรือที่เราคุ้นหูกันว่า Blogger เป็นเหมือนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มสำหรับคนที่ชอบอ่านเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจ
- Blogger จึงเป็นเหมือนการทำคอนเทนต์อย่างหนึ่งผ่านตัวหนังสือในการเล่าเรื่อง รีวิว แสดงความคิดเห็น ซึ่งก็สอดคล้องต่อการทำ Affiliate แบบ Fulltime ด้วย
- การทำ Affiliate กับการทำ Blog มันสัมพันธ์กันยังไง?
- คำตอบก็คือเมื่อ Bolg ของเรามีการเล่าเรื่องที่สนุก ชวนให้ติดตาม ก็จะมีโอกาสสูงที่จะได้รับการสนับสนุนจากผู้อ่านผ่านลิงก์ Affiliate โดยแนะนำสินค้า/บริการที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบล็อกพร้อมกับแปลงเป็นยอดขายสินค้า
- นอกจากนี้ Blogger สามารถสร้างเนื้อหาที่มีความหลากหลาย เช่น บทความรีวิวหรือการเปรียบเทียบสินค้าต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์
- มี สินค้า/บริการ อะไรบ้าง? ที่นิยมโปรโมทใน Blog
- สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี : สมาร์ทโฟน , แล็ปท็อป , Gadget ต่างๆ เช่น หูฟัง
- สุขภาพ : อุปกรณ์ออกกำลังกาย , อาหารเสริม
- หนังสือและสื่อบันเทิง : E-Book , หนังสือขายดี
- การท่องเที่ยวและที่พัก : โรงแรมและรีสอร์ท , แพ็คเกจทัวร์และกิจกรรมท่องเที่ยว
- บริการออนไลน์และซอฟต์แวร์ : บริการโฮสติ้งและโดเมนเนม
- จุดเด่นของการทำ Affiliate แบบ Blogger มีอะไรบ้าง?
- นำเสนอได้หลายรูปแบบ : Blogger สามารถนำเสนอสินค้า Affiliate ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น รีวิวสินค้า, เปรียบเทียบสินค้า, สร้างวิดีโอใน Blog , หรือแม้แต่เขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนักอ่าน : คนที่ชื่นชอบและนิยมอ่าน Blog ในปัจจุบันนั้นมีไม่น้อย หาก Blog มีเนื้อหาที่น่าสนใจ เช่น บล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยว, บล็อกเกี่ยวกับสุขภาพ ก็สามารถเลือกสินค้า/บริการ Affiliate ที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
- ควบคุมเนื้อหาได้เอง : Blogger สามารถเลือกสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายและสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจได้อย่างอิสระ
- ตัวอย่างการทำ Affiliate แบบ Blogger
- บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว : รีวิวสายการบิน รีวิว First Class Suite Emirates A380 ห้องสวีทส่วนตัวบนฟ้า (paigunna.com)
- บล็อกเกร์สายสุขภาพ : รีวิวเครื่องดื่มสำหรับสุขภาพ Turmeric Latte เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (yogawithlala24.blogspot.com)
จุดเด่นการทำงาน Affiliate แบบ Blogger
ยูทูปเบอร์ (YouTuber)
- ปัจจุบันต้องยอมรับ ผู้คนแทบจะดู YouTube แทนทีวีไปแล้ว เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้มีเนื้อหาที่หลากหลายน่าสนใจ เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย สามารถเลือกชมได้ตามใจชอบ
- ไม่แปลกใจเลยที่ อาชีพ Youtuber กำลังเติบโตมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ซึ่งการทำ Affiliate ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ของเหล่า Youtuber เช่นกัน
- จุดเด่นของการทำ Affiliate แบบ Youtuber
- คอนเทนต์วิดีโอ : YouTube คือแพลตฟอร์มที่เน้นนำเสนอเนื้อหาแบบวิดีโอเป็นหลัก มันสร้างความเชื่อมั่นได้มากกว่าการเขียนรีวิว เพราะผู้ชมเห็นการใช้งานจริงผ่านวิดีโอ
- ความบันเทิง : แน่นอนว่าการดูคลิปตลกนั้นมีโอกาสสร้างเสียงหัวเรามากกว่าอ่านเรื่องตลก จุดเด่นตรงนี้ทำให้ YouTube ได้เปรียบในการสร้างผู้ติดตามที่ชื่นชอบในเนื้อหา
- Live Stream : ฟีเจอร์หนึ่งที่โดดเด่นของ YouTube ก็คือการไลฟ์สตรีมมิ่ง เป็นเหมือนการสร้างปฏิสัมพันธืกับเหล่าผู้ติดตาม เช่น การตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็นพูดคุย
- สินค้า/บริการที่เหมาะกับช่องทาง Youtuber ในการทำ Affiliate
- การท่องเที่ยว : รีวิวที่พัก รีวิวการเดินทาง
- เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว : สกินแคร์ เมคอัพ เครื่องสำอาง
- สินค้าเทคโนโลยี: สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์, เกม, อุปกรณ์เสริมต่างๆ
- สินค้าสำหรับสุขภาพ: อาหารเสริม, อุปกรณ์ออกกำลังกาย, สูตรอาหารสุขภาพ
- บริการดิจิทัล (Digital Service) : คอร์สเรียนออนไลน์ , ซอฟต์แวร์ต่างๆ
- ผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านและไลฟ์สไตล์ : อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน , เครื่องใช้ไฟฟ้า , เครื่องแต่งกาย
- ตัวอย่างการทำ Affiliate แบบ Youtuber
- รีวิวสมาร์ทโฟน : รีวิว Galaxy A55 5G ที่สุดของมือถือทำคอนเท้นต์ ตัวเดียวจบงบนี้ (youtube.com)
- รีวิวที่พัก : 15 ที่พักตรัง ที่บรรยากาศสุดปัง จนต้องตามไปปักหมุด (youtube.com)
- รีวิวเครื่องสำอาง : 🔥รีวิว:เครื่องสำอางหลัก10จากShopeeจ้า แต่งให้ดูทั้งหน้าไปเลย ถูกแต่จะรอดมั้ย😂คลิปนี้รู้เรื่อง!💗✨ (youtube.com)
จุดเด่นการทำ Affiliate แบบ Youtuber
อินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย (Social Media Influencer)
- โซเชียลมีเดียที่เราใช้งานกันอยู่ในทุกวันนี้ มีอินฟลูเอนเซอร์หลายคนที่ทำ Affiliate บนแพลตฟอร์มต่างๆ เรามาดูกันว่า แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นยังไง ทำไมผู้คนถึงใช้มันทำ Affiliate กัน
- Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย
- Facebook มีฟีเจอร์ที่สามารถสร้างกลุ่มและเพจสำหรับผู้สนใจเฉพาะด้าน ช่วยให้การทำ Affiliate มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การมีฟีเจอร์ Live Streaming ของ Facebook สามารถสร้างความน่าสนใจและความเชื่อมั่นในการแนะนำสินค้า/บริการได้
- Facebook มีการยิง Ads โฆษณาที่แม่นยำและตรงกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลดีต่อการทำ Affiliate
- TikTok
- รูปแบบวิดีโอสั้นที่ TikTok เน้นนำเสนอมีความสะดวกและดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างรวดเร็ว
- TikTok มีโอกาสให้คอนเทนต์กลายเป็นไวรัลได้ง่าย ทำให้การโปรโมทสินค้า/บริการมีโอกาสแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาใน TikTok
- การทำ Live บน TikTok สามารถสร้างการมีส่วนร่วมและความเชื่อมั่นได้ดี เป็นฟีเจอร์ที่มีระบบสนับสนุนการขาย
- ฟีเจอร์ Stories และ Reels ของ Instagram ช่วยสร้างคอนเทนต์และน่าสนใจ สามารถใส่ลิงก์ Affiliate ใน Stories ได้
- มี Influencer จำนวนมากที่ทำการตลาด Affiliate ผ่านการโพสต์รูปและวิดีโอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสินค้า/บริการ
- สินค้า/บริการที่ต้องเน้นในการถ่ายรูปหรือสร้างคลิปวิดีโอ จะได้เปรียบเพราะ Instagram ถูกออกแบบอัลกอริทึ่มให้ส่งเสริมเนื้อหาประเภทนี้โดยเฉพาะ
- X (Twitter เดิม)
- การทวีตข้อความสั้นๆ สามารถดึงดูดความสนใจได้รวดเร็วและง่ายดาย ผ่าน # แฮชแท็กที่กำลังเป็นกระแสไวรัล
- การ Retweet / Repost ช่วยกระจายคอนเทนต์ให้เข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ เพิ่มโอกาสในการทำ Affiliate
- แพลตฟอร์ม X เป็นแพลตฟอร์มที่อัพเดทรวดเร็วในเรื่องข่าวสารและประเด็นทั่วโลก และมีเนื้อหาที่กว้างขวางไม่มีจำกัด
จุดเด่นของการทำ Affiliate แบบ Influencer
- สินค้า/บริการที่นิยมทำ Affiliate บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ มีอะไรบ้าง?
- เนื้อหา Facebook มีความครอบคลุมทั้ง การโพสต์ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย ทำให้สามารถโปรโมตสินค้าได้แทบทุกประเภท
- ผลิตภัณฑ์ความงาม: เครื่องสำอาง, สกินแคร์
- แฟชั่น: เสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า
- เทคโนโลยี: สมาร์ทโฟน, แกดเจ็ต
- อาหารเสริม: วิตามิน, โปรตีน
- บริการ: ท่องเที่ยว, การศึกษาออนไลน์
- ตัวอย่าง การทำ Affiliate บน Facebook : Sale Here เพจแนะนำโปรโมชั่น สินค้า/บริการ ครบวงจร พร้อมลิงก์สำหรับการซื้อหรือใช้บริการ
- TikTok
- TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นความสนุกสนานและสร้างกระแสได้ง่าย ทำให้สินค้า/บริการที่เข้าใจง่ายและใช้เวลาน้อยในการรับรู้ มักเป็นที่นิยมกว่าสินค้าอื่นๆ
- ผลิตภัณฑ์ความงาม: เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์เส้นผม , ครีมต่างๆ
- เกม: เกมมือถือ, อุปกรณ์เล่นเกม
- สินค้าแฟชั่น: เสื้อผ้า, รองเท้า, และอุปกรณ์เสริมที่สามารถนำเสนอในวิดีโอที่มีความสนุกสนานและดึงดูด
- สินค้า/บริการที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงหรือที่ใช้ในการทำคลิปสั้น
- ตัวอย่างการทำ Affiliate บน TikTok : รีวิวไอที 789 ช่อง TikTok ที่รีวิวสินค้าต่างๆ พร้อมปักตระกร้าลิงก์เพื่อไปซื้อสินค้านั้นๆ
- Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการนำเสนอแบบรูปภาพและวิดีโอสั้นคุณภาพ HD ทำให้สินค้าที่เน้นภาพลักษณ์เป็นที่นิยมในการทำ Affiliate
- แฟชั่น: เสื้อผ้า, เครื่องประดับ , แว่นตา , นาฬิกา
- ความงาม: เครื่องสำอาง, สกินแคร์ , ครีมบำรุง
- ไลฟ์สไตล์: ของตกแต่งบ้าน, สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง
- ตัวอย่างการทำ Affiliate บน Instagram : แหมทำเป็นฟิต | ภัทร อินฟลูสายไอจีมีรีวิวสินค้าประเภทอาหารเสริมสุขภาพ โปรตีน
- X (Twitter)
- X เน้นการแชร์ข่าวสารและความคิดเห็น ทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารและกำลังอยู่ในเทรนด์เป็นที่นิยมอย่างมาก
- เทคโนโลยี: แกดเจ็ตใหม่ๆ, แอปพลิเคชัน
- ข่าวสาร: หนังสือ, สารคดี
- บริการ: บริการด้านการเงิน, การลงทุน , ซอฟต์แวร์การจัดการธุรกิจ, และเครื่องมือทางการตลาด
- การท่องเที่ยวและโรงแรม: แพ็คเกจทัวร์และการจองที่พัก ที่สามารถโปรโมทผ่านการทวีตและการรีวิว
- ตัวอย่างการทำ Affiliate บน X : เรนนี่มารีวิว อินฟลูสายรีวิวใน X ที่รีวิวสินค้าต่างๆ พร้อมแปะลิงก์ในทวีต
เจ้าของเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา (Price Comparison Website Owner)
- ต้องบอกก่อนว่างานแนวนี้เป็นงานที่ไอเดียเจ๋งสุดๆ ก็คือเจ้าของเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา (Price Comparison Website Owner)
- เหตุผลที่มีข้อได้เปรียบในการทำ Affiliate เนื่องจากตัวเว็บไซต์ก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ค้นหาและเปรียบเทียบราคาสินค้าอยู่แล้ว ทำให้การทำ Affiliate สามารถสอดคล้องกับตัวเนื้อหาของเว็บไซต์อย่างดี
- จุดเด่นที่สำคัญเจ้าของเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา ในการทำ Affiliate
- ผู้ที่เข้ามาใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาส่วนใหญ่มีเจตนาที่จะซื้อสินค้าอยู่แล้ว ดังนั้นโอกาสในการแปลงยอดคลิกเป็นยอดขายจึงสูงมากๆ
- เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาจะมีข้อมูลสินค้าที่ครบถ้วน เช่น ราคา สเปค และรีวิว ทำให้สามารถนำเสนอข้อมูลเหล่านี้แก่ผู้บริโภคได้อย่างละเอียด เพิ่มปัจจัยในการเลือกซื้อเข้าไปอีก
- ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าจากร้านค้าต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น
- กลยุทธ์ในการทำ Affiliate สำหรับเจ้าของเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา มีแนวทางดังนี้
- เลือกสินค้าที่จะรีวิวหรือเปรียบเทียบที่กำลังอยู่ในกระแสเป็นที่นิยม เพื่อเพิ่มความสนใจจากผู้คนและโอกาศเข้าถึงที่มากกว่า
- นำเสนอตารางเปรียบเทียบราคาที่ชัดเจนและง่ายต่อการเข้าใจ จับประเด็นสำคัญในการเปรียบเทียบให้ได้พร้อมบอกเล่าจุดเด่นของสินค้า เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- เมื่อเกิดการใช้ลิงก์ ก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า Affiliate Link ที่ใช้สามารถติดตามผลได้และอัปเดตราคาและข้อมูลสินค้าอยู่เสมอ เพื่อให้ข้อมูลที่คุณนำเสนอมีความถูกต้อง
- ตัวอย่างการทำ Affiliate แบบ เว็บไซต์เปรียบเทียบราคา : iPrice เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสายเทคโนโลยีพร้อมลิงก์ที่นำไปสู่ร้านค้าเพื่อซื้อสินค้า
ตัวอย่างจุดเด่นของเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา ในการทำ Affiliate
แพลตฟอร์มใดบ้างที่นิยมทำ Affiliate แบบ Fulltime
หลังจากที่รู้แนวทางงาน Affiliate Marketing ไปแล้วทีนี้ก็ควรจะต้องศึกษาว่า Affiliate Program จากที่ไหนน่าสนใจบ้าง มีเงื่อนไขเป็นอย่างไรในตลาดตอนนี้ เหมาะกับการใช้เพื่อทำงาน Affiliate แบบ Fulltime หรือไม่?
Amazon Associates
โปรแกรม Amazon Associates คืออะไร?
- Amazon Associates เป็นโปรแกรมการตลาดแบบ Affiliate ที่เหมือนจะเป็นต้นแบบของ Affiliate ทั่วโลก เพราะที่ Amazon แทบจะเป็นที่แรกในการทำการตลาดแบบนี้ โดยมีผลตอบแทนให้กับกับพันธมิตรที่ช่วยโปรโมทสินค้าจาก Amazon.com
- การทำ Affiliate Program กับ Amazon มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าจากทั่วโลกและรับค่าคอมมิชชั่นสูงถึง 20% สำหรับการซื้อขายบนเว็บ Amazon.com
ค่าคอมมิชชั่น
- ค่าคอมมิชชั่นของการทำการตลาด Affiliate กับ Amazon สูงสุดถึง 20% ก็คือสินค้าประเภทเกม โดยทาง Amazon จะมีเรทที่คงที่สำหรับคอมมิชชั่นประเภทต่างๆ ซึ่งทุกท่านสามารถดูได้ที่นี่
- ค่าคอมมิชชั่นระดับท็อปของแต่ละหมวดหมู่ในเว็บไซต์ Amazon มีดังนี้
- Amazon Games – ค่าคอมมิชชั่น 20%
- ผลิตภัณฑ์ความงาม – ค่าคอมมิชชั่น 10%
- สตรีมมิ่งเพลง , สินค้าแฮนด์เมด – ค่าคอมมิชชั่น 5 %
- หนังสือทางกายภาพ, ห้องครัว, ยานยนต์ – ค่าคอมมิชชั่น 4.5%
- Amazon มีฟีเจอร์ในการรับค่าคอมมิชชั่นได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
- แบบ On-site : วิดีโอรีวิวของ Affiliate จะแสดงอยู่บนหน้าสินค้าในเว็บไซต์ Amazon
- แบบ Off-site : Affiliate ต้องนำลิงก์สินค้าไปแปะบนช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง
- ซึ่งทั้งคู่ก็ได้รับค่าคอมมิชชั่นเหมือนกัน เพียงแค่ On-site ถูกออกแบบมาเพื่อช่วย Affiliate ที่ยังไม่มีผู้ติดตามมากนัก
Lazada Affiliate
Lazada Affiliate คืออะไร?
- Lazada Affiliate คือโปรแกรมการตลาดแบบยุคใหม่ที่ช่วยให้เรา “เปลี่ยนสินค้า Lazada เป็นรายได้” โดยไม่ต้องลงทุน เพียงแค่โปรโมทสินค้าผ่านลิงก์ของร้านค้าและธุรกิจบน Lazada เท่านั้น
- ในปี 2024 นี้มี Influencer หลายคนที่ทำงานร่วมกับ Lazada ในโปรแกรม Affiliate ด้วยความโดดเด่นของ Lazada ที่มอบค่าคอมมิชั่นสูงสุดถึง 80%
ค่าคอมมิชชั่นของ Lazada Affiliate
- ค่าคอมมิชชั่นที่ผู้พันธมิตรจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและปริมาณการขาย โดย Lazada ได้ระบุไว้หน้าเว็บเพจเกี่ยวกับ ค่าคอมมิชชั่นว่า มีโอกาสสูงสุดถึง 80% เลยทีเดียว
- ซึ่งรายได้นอกจากทางคอมมิชชั่นแล้ว Lazada ยังมีโบนัสพิเศษสำหรับพันธมิตร ก็คือ…
- Affiliate มือใหม่เมื่อเริ่มการโปรโมทและเริ่มมีออเดอร์ในการขายครั้งแรก Lazada แจกโบนัสให้อีก 100 บาท!!
- กิจกรรมสร้างออเดอร์ ทาง Lazada จะจัดกิจกรรม Order Chalenge ให้พันธมิตรทั้งหลายได้ร่วมแข่งขันสร้างออเดอร์การขายตามกำหนด โดยมีเงินรางวัลสูงสุดถึง 9,000 บาท!!
- ความน่าสนใจของ Lazada ยังไม่หมดเพราะทางบริษัทให้ความสำคัญต่อการเติบโตของ Affiliate Marketing จึงมีกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นให้ พันธมิตรที่ไม่มีผู้ติดตามหรือผู้ติดตามน้อยกับเหล่าอินฟลูฯ ผู้ติดตามเยอะ
- พันธมิตรที่ไม่มีผู้ติดตามหรือผู้ติดตามน้อย (0-2,999 คน) : Lazada จัดกิจกรรมโบนัสพิเศษเพิ่มเติมและมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและดันให้เป็นอินฟลูฯ
- พันธมิตรที่เป็นอินฟลูฯ (ผู้ติดตาม 3,000+ คน) : Lazada มอบโอกาสให้ร่วมงานกับแบรนด์ดังรับสินค้าไปรีวิว ฟรี!!!
Shopee Affiliate
Shopee Affiliate คืออะไร?
- โปรแกรมการตลาดแบบพันธมิตรจากค่าย Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ เวลานี้ ซึ่ง Shopee Affiliate มีกระแสและแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นเหมือนเพลงกระแสหลักของวงการ Affiliate
- ความโดดเด่นของ Shopee Affiliate ก็คือฟีเจอร์ที่หลากหลายสำหรับการเป็นพันธมิตร เช่น
- รับค่าคอมมิชชั่นสูงสุดถึง 60%
- กิจกรรมรับรางวัลพิเศษประจำเดือนมูลค่ารวมสูงถึง 8,300 บาท
- Extra Commission ที่ทางร้านค้าจะให้ค่าคอมมิชชั่นแก่พันธมิตรเพิ่มเติม
ค่าคอมมิชชั่นของ Shopee Affiliate
- อัตราค่าคอมมิชชั่นของ Shopee Affiliate นั้นมีเรทอัตราที่ครอบคลุมทุกประเภทสินค้า/บริการ โดยสูงสุดคือสินค้าจำพวก เสื้อผ้า รองเท้า ที่มีค่าคอมมิชชั่น(สำหรับผู้ใช้ใหม่) ถึง 28%
- Shopee ยังมีกิจกรรมแคมเปญพิเศษประจำเดือนที่คอยสนับสนุนเหล่าพันธมิตรทั้งหลาย โดยเฉพาะหมวดหมู่แฟชั่นที่ดูเหมือนจะเป็นเสาหลักของการทำ Affiliate ของ Shopee เพราะค่าคิมมิชชั่นพิเศษสูงถึง 30% ตลอดสัปดาห์
- ความพิเศษของอัตราค่าคอมมิชชั่นจาก Shopee Affiliate ก็คือ ทางแพลตฟอร์มมีฟีเจอร์ Extra Comm สำหรับการเพิ่มค่าคอมมิชชั่นพิเศษจากทางร้านค้า+ค่าคอมมิชชั่นแบบปกติจากทาง Shopee
- ฟีเจอร์ Shopee Affiliate Mission คือกิจกรรมเฉพาะเหล่าพันธมิตรที่เอาไว้เพิ่มเงินโบนัสจากการทำภารกิจต่างๆ เช่น…
- Basic Mission: เข้าร่วมเทรนนิ่ง ส่งโพสต์โปรโมท รับโบนัสสูงถึง 2,000 บาท
- Advance Mission: ยอดขายครบ 90-1,550 ออเดอร์ รับโบนัสสูงถึง 8,300 บาท
- Extra Comm Mission: สร้างลิงก์ Extra Comm รับโบนัสสูงถึง 1,500 บาท
- Sociable Mission: ชวนเพื่อน ไลฟ์บน Shopee ชวนลูกค้าใหม่ รับโบนัสเริ่มต้น 900 บาท
TikTok Affiliate
TikTok Affiliate คืออะไร?
- ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า TikTok ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกนั้น กำลังมาแรงสุดๆ กับกระแส TikTok Affiliate โปรแกรมการตลาดที่ดึงดูดเหล่าอินฟลูเอนเซอร์มาสร้างรายได้มหาศาล
- ฟีเจอร์เด็ดๆ ของ TikTok Affiliate ก็คือ คุณสามารถมีร้านค้าบน Tiktok Shop ได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีสินค้าหรือแบรนด์ของตัวเอง แค่เอาลิงก์สินค้าจากร้านค้าอื่นมาโปรโมทไว้บน Shop ของเราแค่นั้นเอง
- สิ่งที่ TikTok ดึงดูดมากกว่าแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซอื่นๆ ก็คือ TikTok ไม่ใช่ อีคอมเมิร์ซ แต่เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่มีคอนเทนต์สนุกๆ มากมาย มันยิ่งทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงผู้ใช้งานทั่วโลก
ค่าคอมมิชชั่นของ TikTok
- ค่าคอมมิชชั่นสำหรับครีเอเตอร์นั้น ทางร้านค้าจะระบุค่าคอมมิชั่นไว้ในสินค้าเรียบร้อยแล้วในระหว่างการเลือกโปรโมทสินค้า
- สิ่งที่สำคัญที่ต้องเข้าใจร่วมกันระหว่างร้านค้ากับครีเอเตอร์ก็คือ Tiktok จะมีฟีเจอร์ในการให้ร้านค้าเลือกใช้ตรีเอเตอร์ได้ ดังนี้
- Collaboration แบบกำหนดเป้าหมาย : คือครีเอเตอร์ที่ร้านค้าตั้งใจเลือกร่วมงานโดยเฉพาะ เพราะมองว่าตัวครีเอเตอร์มีความเข้ากับสินค้าได้ดี
- Collaboration แบบเปิด : ร้านค้าไม่ได้เจาะจงเลือกครีเอเตอร์คนใดมาร่วมงาน โดยครีเอเตอร์ที่ผ่านเกณฑ์ของ TikTok ก็จะมีสิทธิในการขอโปรโมทสินค้าของร้านนั้นได้
สรุป
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็หวังว่าทุกท่านจะเริ่มคิดแนวทางการทำงาน Affiliate แบบ Fulltime ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ก่อนจะจากกันไปต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่าการทำ Affiliate ไม่ได้จำกัดเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่ในโลกนี้ยังมี Affiliate ประเภทอื่นๆ เช่น การลงทุน ประกัน การเดินทาง สิ่งเหล่านี้ล้สนสามารถทำ Affiliate ได้ทั้งสิ้น แต่ที่พบเจอบ่อยสุดก็ต้องเป็นสินค้าซึ่งเราก็ได้บอกถึงสถิติที่ฟ้องว่าสินค้าแบบใดได้รับความนิยมในการทำ Affiliate รวมไปถึงงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Affiliate แบบ Fulltime และแพลตฟอร์มที่ควรเลือกใช้หากคิดจะเป็น Affiliate Marketing ซึ่งแนวทางเหล่านี้ ก็อาจจะทำให้คนที่กำลังจะเริ่มต้นได้มองเห็นภาพรวมคร่าวๆ ของอาชีพการทำ Affiliate แบบ Fulltime ได้มากขึ้น